7. โยนาธานจึงเรียกดาวิดและเล่าสิ่งที่พูดคุยกันทั้งหมดให้ฟัง จากนั้นก็นำดาวิดไปเข้าเฝ้าซาอูล ดาวิดจึงได้อยู่กับซาอูลเหมือนแต่ก่อน
8. หลังจากนั้นเกิดสงครามอีก ดาวิดก็ออกไปสู้รบกับชาวฟีลิสเตียและฆ่าฟันจนศัตรูแตกพ่ายไป
9. แต่วิญญาณชั่วจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าสิงซาอูลขณะที่ประทับอยู่ในวังและพระหัตถ์ถือหอกอยู่ ขณะที่ดาวิดกำลังเล่นพิณถวาย
10. ซาอูลทรงพุ่งหอกหมายตรึงดาวิดติดผนัง แต่ดาวิดเบี่ยงตัวหลบ หอกของซาอูลจึงพุ่งไปปักติดผนัง และดาวิดก็หนีรอดไปได้ในคืนนั้น
11. ซาอูลทรงส่งคนจำนวนหนึ่งไปเฝ้าอยู่ที่บ้านของดาวิด ให้ฆ่าดาวิดในตอนเช้า แต่มีคาลภรรยาของดาวิดเตือนเขาว่า “ถ้าท่านไม่หนีเอาชีวิตรอดในคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าท่านจะถูกฆ่า”
12. มีคาลจึงช่วยให้ดาวิดหนีลงทางหน้าต่างและรอดไปได้
13. แล้วนางยกรูปเคารพมาวางนอนบนเตียงของดาวิดใช้ผ้าห่มคลุมไว้ เอาขนแพะติดไว้ที่ศีรษะ
14. เมื่อซาอูลทรงส่งคนมาจับกุมตัวดาวิด มีคาลก็บอกว่า “เขากำลังป่วย”
15. แล้วซาอูลทรงส่งคนกลับมาดูดาวิดอีกและทรงสั่งพวกเขาว่า “ไปเอาตัวเขามาจากที่นอนเพื่อเราจะฆ่าเสีย”
16. แต่เมื่อพวกเขาเข้าไป ก็พบว่ามีแต่รูปเคารพอยู่บนเตียง ที่ศีรษะมีขนแพะวางอยู่
17. ซาอูลตรัสกับมีคาลว่า “ทำไมถึงหลอกลวงพ่อ ปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้?”มีคาลทูลว่า “เขาพูดกับลูกว่า ‘ให้ข้าหนีไปเสีย ทำไมต้องให้ข้าฆ่าเจ้าด้วย?’ ”
18. เมื่อดาวิดหนีรอดไปได้ เขาไปหาซามูเอลที่รามาห์ และแจ้งให้เขาทราบถึงสิ่งที่ซาอูลได้ทำแก่ตนทั้งหมด ซามูเอลจึงพาดาวิดไปอาศัยอยู่ด้วยกันที่นาโยท