5. ถึงเฮโรดมีพระประสงค์จะฆ่ายอห์นก็ทรงกลัวฝูงชน เพราะว่าพวกเขานับถือยอห์นว่าเป็นผู้เผยพระวจนะ
6. แต่เมื่องานฉลองวันประสูติของเฮโรดมาถึง บุตรีนางเฮโรเดียสมาเต้นรำต่อหน้าพวกแขก ทำให้เฮโรดโปรด
7. เฮโรดจึงทรงสัญญาโดยปฏิญาณว่า “เธอจะขอสิ่งใดๆ ก็จะให้สิ่งนั้น”
8. เธอก็ทูลตามที่มารดาแนะนำไว้ว่า “ขอศีรษะยอห์นผู้ให้บัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เพคะ”
9. กษัตริย์เฮโรดก็ทรงเป็นทุกข์ แต่เพราะเหตุที่ทรงปฏิญาณไว้ และเพราะทรงเห็นแก่หน้าแขกจึงมีรับสั่งอนุญาตให้
10. แล้วก็ทรงใช้คนไปตัดศีรษะยอห์นในคุก
11. เขาจึงเอาศีรษะใส่ถาดมาให้หญิงสาวนั้น หญิงสาวนั้นก็เอาไปให้มารดา
12. บรรดาสาวกของยอห์นก็มารับเอาศพไปฝังไว้ แล้วก็มาทูลพระเยซูให้ทรงทราบ
13. เมื่อพระเยซูทรงทราบแล้ว จึงทรงลงเรือเสด็จไปจากที่นั่น ไปยังที่สงบตามลำพัง เมื่อฝูงชนทราบ เขาทั้งหลายก็ออกจากเมืองต่างๆ เดินตามพระองค์ไป
14. เมื่อพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือแล้ว ก็ทอดพระเนตรเห็นมหาชน พระองค์ทรงสงสารเขาทั้งหลาย จึงทรงรักษาคนป่วยของพวกเขาให้หาย
15. เมื่อเวลาเย็นแล้ว บรรดาสาวกมาทูลพระองค์ว่า “ที่นี่เป็นถิ่นทุรกันดาร และบัดนี้ก็เย็นลงมากแล้ว ขอพระองค์โปรดให้ฝูงชนไปเสียเถิด เพื่อพวกเขาจะไปซื้ออาหารรับประทานตามหมู่บ้าน”