11. กับเขตกิเลอาดและท้องถิ่นของคนเกชูร์ และคนมาอาคาห์และภูเขาเฮอร์โมนทั้งหมด และเมืองบาชานทั้งสิ้นจนถึงเมืองสาเลคาห์
12. ตลอดราชอาณาจักรของโอกในบาชาน ผู้ครอบครองอยู่ในอัชทาโรทและในเอเดรอี (ท่านเป็นเผ่าเรฟาอิมผู้เดียวที่เหลืออยู่) เมืองเหล่านี้โมเสสรบชนะและได้ขับไล่ให้ออกไป
13. แต่คนอิสราเอลยังหาได้ขับไล่คนเกชูร์ หรือคนมาอาคาห์ให้ออกไปไม่ แต่เกชูร์กับมาอาคาห์ยังอาศัย อยู่ในหมู่คนอิสราเอลจนทุกวันนี้
14. เฉพาะเผ่าเลวีเผ่าเดียวโมเสสหาได้มอบมรดกให้ไม่ ของบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลเป็นมรดกของเขาดังที่พระองค์ตรัสไว้แก่เขาแล้ว
15. และโมเสสได้มอบส่วนมรดกให้แก่เผ่ารูเบนตาม ตระกูลของเขา
16. ดังนั้นเขตแดนของเขาจึงตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ริมลุ่มแม่น้ำอารโนน และเมืองซึ่งอยู่กลางลุ่มแม่น้ำนั้นและที่ราบ เมืองเมเดบาทั้งสิ้น
17. ทั้งเมืองเฮชโบน รวมกับหัวเมืองขึ้นทั้งสิ้นซึ่งอยู่บนที่ราบนั้นคือดีโบน และบาโมทบาอัล และเบธบาอัลเมโอน
18. กับยาฮาส และเคเดโมท และเมฟาอาท
19. และคีริยาธาอิม และสิบมาห์และเศเรทชาหาร์ ซึ่งอยู่บนเนินเขาในลุ่มแม่น้ำนั้น
20. กับเบธเปโอร์ และที่ลาดภูเขาปิสกาห์และเมืองเบธเยชิโมท
21. คือหัวเมืองทั้งสิ้นซึ่งอยู่บนที่ราบ และทั้งราชอาณาจักรทั้งหมดของสิโหนกษัตริย์คนอาโมไรต์ ผู้ครอบครองอยู่ในเฮชโบน ซึ่งโมเสสได้กระทำให้พ่ายแพ้ พร้อมกับประมุขของมีเดียนคือ เอวี เรเคม ศูร์ และเฮอร์ กับเรบา เป็นเจ้านายซึ่งขึ้นแก่กษัตริย์สิโหนผู้พำนักอยู่ในแผ่นดินนั้น
22. อนึ่งคนอิสราเอลได้ฆ่าบาลาอัม บุตรเบโอร์ผู้เป็นคนทำนายเสีย ด้วยดาบพร้อมกับคนอื่นที่เขาได้ฆ่านั้น
23. อาณาเขตของคนรูเบนคือแม่น้ำจอร์แดนเป็นพรมแดน นี่เป็นมรดกของคนรูเบนตามตระกูล รวมทั้งหัวเมืองและชนบทด้วย
24. โมเสสได้มอบมรดกให้แก่คนเผ่ากาดตามตระกูลของเขาด้วย
25. อาณาเขตของเขาคือยาเซอร์และหัวเมืองกิเลอาดทั้งหมด และครึ่งหนึ่งของแผ่นดินคนอัมโมนถึงอาโรเออร์ซึ่งอยู่ทาง ทิศตะวันออกของเมืองรับบาห์
26. ตั้งแต่เมืองเฮชโบน จนถึงเมืองรามัทมิสเปห์และเบโทนิม และตั้งแต่มาหะนาอิมจนถึงเขตแดนเดบีร์
27. ในหว่างเขา มีเมืองเบธฮารัม เบธนิมราห์ สุคคท และซาโฟน ราชอาณาจักรส่วนที่เหลือของสิโหนกษัตริย์เมืองเฮชโบนนั้น มีแม่น้ำจอร์แดนเป็นพรมแดน จดทะเลคินเนเรทตอนปลายข้างล่าง ด้านตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน