8. และในวันที่พระเจ้าทรงฆ่าบูชานั้น (คือพระองค์ตรัสว่า)“เราจะลงโทษบรรดาเจ้านายและโอรสของกษัตริย์และบรรดาผู้ที่ตกแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายต่างด้าว
9. ในวันนั้น เราจะลงโทษทุกคนที่กระโดดข้ามธรณีประตูและบรรดาผู้ที่กระทำให้เรือนของนายเต็มไปด้วยความทารุณและการคดโกง”
10. พระเจ้าตรัสว่า “ในวันนั้นจะได้ยินเสียงร้องจากประตูปลาและเสียงร่ำไห้จากแขวงสองและเสียงโครมครามจากเนินเขา
11. โอชาวตำบลครก จงร่ำไห้เถิดเพราะพ่อค้าทั้งปวงก็ไม่มีเหลือแล้วผู้ที่ชั่งเงินค้าขายก็ถูกกำจัดเสียแล้ว
12. คราวนั้นเราจะเอาตะเกียงส่องดูเยรูซาเล็มและเราจะลงโทษคนที่ปล่อยตัวดังตะกอนเหล้าองุ่นที่เกรอะไว้นานผู้ที่กล่าวในใจของตนว่า‘พระเจ้าจะไม่ทรงกระทำการดีและพระองค์ก็จะไม่ทรงกระทำการชั่ว’
13. ทรัพย์สิ่งของของเขาจะถูกปล้นและเรือนของเขาจะเริศร้างถึงเขาจะสร้างเรือนเขาก็จะไม่ได้อยู่ในเรือนนั้นถึงเขาจะทำสวนองุ่นเขาจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น”
14. วันสำคัญของพระเจ้าใกล้เข้ามาใกล้เข้ามาและเร่งมากเสียงแห่งวันของพระเจ้าก็ขมขื่นผู้แกล้วกล้าจะร้องเสียงดังที่นั่น
15. วันนั้นเป็นวันแห่งพระพิโรธเป็นวันแห่งความทุกข์ใจและเป็นวันระทมเป็นวันพินาศและวันเริศร้างเป็นวันแห่งความมืดและความมืดครึ้มเป็นวันที่มีเมฆและความมืดทึบ
16. เป็นวันที่มีเสียงเขาสัตว์และวันโห่ร้องต่อเมืองทั้งหลายที่มีสันปราการและต่อป้อมสูง
17. เราจะนำทุกข์ภัยมาสู่มนุษย์เขาจะได้เดินไปเหมือนคนตาบอดเพราะเขาได้กระทำบาปต่อพระเจ้าโลหิตของเขาจะถูกเทออกเหมือนฝุ่นและเนื้อของเขาจะถูกเทออกเหมือนมูลสัตว์
18. เงินหรือทองคำของเขาก็ดีจะไม่สามารถช่วยกู้เขาได้ในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้าพิภพทั้งสิ้นจะถูกเผาผลาญในไฟแห่งความหวงแหนของพระองค์พระองค์จะทรงกระทำให้ชาวพื้นพิภพทั้งสิ้นถึงที่สิ้นสุด เออ ถึงที่สิ้นสุดอย่างกะทันหัน