9. บทประพันธ์ของเฮเซคียาห์พระราชาแห่งยูดาห์ หลังจากที่พระองค์ได้ทรงประชวร และทรงฟื้นจากการประชวรของพระองค์นั้น มีว่า
10. ข้าพเจ้าว่า เมื่อชีวิตของข้าพเจ้ามาถึงกลางคนข้าพเจ้าจะต้องพรากไปข้าพเจ้าถูกมอบไว้ที่ประตูแดนคนตายตลอดชีวิตบั้นปลายของข้าพเจ้า
11. ข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าจะไม่เห็นพระเจ้าในแผ่นดินของผู้มีชีวิตข้าพเจ้าจะมองไม่เห็นมนุษย์อีกที่ในหมู่ชาวแผ่นดินโลก
12. ที่อยู่ของข้าพเจ้าถูกรื้อถอนออกไปจากข้าพเจ้าอย่างกับเต็นท์ของผู้เลี้ยงแกะข้าพเจ้าได้ม้วนชีวิตของข้าพเจ้าเหมือนอย่างคนทอผ้าพระองค์ทรงตัดข้าพเจ้าออกจากหูกพระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาถึงอวสานทั้งวันและคืน
13. ข้าพเจ้าได้ถ่อมตัวลงจนรุ่งเช้าพระองค์ทรงหักกระดูกทั้งสิ้นของข้าพเจ้าเหมือนอย่างสิงห์พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามาถึงอวสานทั้งวันและคืน
14. ข้าพเจ้าร้องอย่างนกนางแอ่นหรือนกกรอดข้าพเจ้าพิลาปอย่างนกพิราบตาของข้าพเจ้าเหนื่อยอ่อนด้วยมองขึ้นข้างบนข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ถูกบีบบังคับ ขอพระองค์ทรงเป็นผู้ประกันของข้าพระองค์
15. แต่ข้าพเจ้าจะพูดอะไรได้ เพราะพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าแล้วและพระองค์เองได้ทรงกระทำเช่นนั้นข้าพเจ้าก็ดำเนินไปด้วยความสงบเสงี่ยมตลอดชีวิตของข้าพเจ้าเพราะความขมขื่นแห่งจิตใจของข้าพเจ้า
16. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า มนุษย์ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยสิ่งเหล่านี้และชีวิตแห่งวิญญาณของข้าพระองค์ก็อยู่ในสิ่งเหล่านี้ขอทรงให้ข้าพระองค์หายดีและขอทรงทำให้ข้าพระองค์มีชีวิต
17. นี่แน่ะ เพราะเห็นแก่สวัสดิภาพของข้าพระองค์ข้าพระองค์จึงมีความขมขื่นมากยิ่งแต่พระองค์ทรงรักชีวิตของข้าพระองค์ไม่ให้ตกหลุมแห่งความพินาศเพราะพระองค์ทรงเหวี่ยงบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์ไว้เบื้องพระปฤษฎางค์ของพระองค์
18. เพราะแดนคนตายโมทนาพระคุณพระองค์ไม่ได้ความมรณาสรรเสริญพระองค์ไม่ได้บรรดาคนที่ลงไปยังปากแดนคนตายนั้นจะหวังในสัจธรรมของพระองค์ไม่ได้
19. คนเป็น คนเป็น เขาโมทนาพระคุณพระองค์อย่างที่ข้าพระองค์กระทำในวันนี้บิดาได้สำแดงถึงสัจธรรมของพระองค์แก่ลูกของเขา
20. พระเจ้าจะทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดและข้าพเจ้าทั้งหลายจะเล่นเครื่องสายของข้าพเจ้าตลอดวันเวลาแห่งชีวิตของข้าพเจ้าทั้งหลายที่พระนิเวศของพระเจ้า
21. ฝ่ายอิสยาห์ได้กล่าวว่า “ให้เขาเอาขนมมะเดื่อมาแผ่นหนึ่ง และแปะไว้ที่พระยอด เพื่อพระองค์จะฟื้น”
22. เฮเซคียาห์ได้ตรัสด้วยว่า “อะไรจะเป็นหมายสำคัญว่า ข้าพเจ้าจะได้ขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเจ้า”