17. แต่หากว่าท่านทั้งหลายไม่ฟังคำเรา ไม่เข้าสุหนัต เราจะเอาบุตรีของเราไปเสีย”
18. ถ้อยคำของเขาเป็นที่พอใจฮาโมร์ และเชเคมบุตรชายของฮาโมร์
19. หนุ่มคนนั้นไม่รีรอที่จะทำตามเพราะเขาชอบบุตรีของยาโคบ เขาเป็นคนมีเกียรติ มากกว่าใครๆในครอบครัวของบิดา
20. ฮาโมร์กับเชเคมบุตรชายจึงออกไปที่ ประตูเมืองบอกชาวเมืองว่า
21. “คนเหล่านี้เป็นมิตรกับพวกเรา ให้เขา อาศัยค้าขายในดินแดนนี้ เพราะดินแดนนี้กว้างขวางพอให้เขาอยู่ได้ เราจงรับบุตรีของเขาเป็นภรรยาพวกเรา และยกบุตรีของเราให้เขา
22. พวกเขาจะยอมอยู่เป็นชนชาติเดียวกับเราได้ตาม เงื่อนไขนี้เท่านั้น คือพวกเราที่เป็นชายทุกคนจะยอมเข้าสุหนัตเหมือนเขา
23. ฝูงสัตว์เลี้ยงและทรัพย์สมบัติของเขา กับฝูงสัตว์ใช้ทั้งสิ้นของเขาก็จะเป็นของเราด้วยมิใช่หรือ ขอแต่ให้เรายอมกระทำดังนั้น เขาจะยอมอยู่กับเรา”
24. ชาวเมืองก็เห็นชอบกับฮาโมร์และเชเคม ชาวเมืองที่เป็นชายก็เข้าสุหนัต
25. ครั้นอยู่มาถึงวันที่สาม คนเหล่านั้นกำลังเจ็บอยู่ บุตรชายสองคนของยาโคบชื่อ สิเมโอนและเลวี เป็นพี่ชายของดีนาห์ ก็ถือดาบแอบเข้าไปในเมือง ฆ่าผู้ชายในเมืองนั้นเสียสิ้น
26. เขาฆ่าฮาโมร์และเชเคมบุตรชายเสียด้วยดาบ และพาดีนาห์ออกจากบ้านเชเคมไปเสีย
27. พวกลูกชายของยาโคบเข้าไปตามบ้านคนตาย และปล้นเมืองนั้น เพราะคนเมืองนั้นทำลายความบริสุทธิ์ของน้องสาว
28. เขาริบเอาฝูงแพะ แกะ ฝูงโค ฝูงลา และข้าวของทั้งปวงในเมืองและในนาไป
29. เอาทรัพย์สมบัติไป และจับบุตรภรรยาของคนเหล่านั้นไปเป็นเชลย และริบของในบ้านไปเสียทั้งสิ้น
30. ฝ่ายยาโคบจึงพูดกับสิเมโอนและเลวีว่า “เจ้าทำให้เราเดือดร้อน โดยทำให้เราเป็นที่เกลียดชังแก่คนถิ่นนี้ คือคนคานาอันกับคนเปริสซี เรามีผู้คนน้อยนัก ถ้าพวกนั้นรุมโจมตีพวกเรา ก็จะทำให้เราและครอบครัวพินาศสิ้น”
31. แต่เขาตอบว่า “มันจะทำกับน้องสาวเราเหมือนหญิงแพศยาได้หรือ”