5. พระราชาทรงตอบคนเคลเดียว่า “คำของเรานั้นเด็ดขาด ถ้าเจ้าไม่ให้เรารู้ความฝันพร้อมทั้งคำแก้ฝัน แขนขาของเจ้าต้องถูกทึ้งออกและบ้านเรือนของ เจ้าจะต้องถูกทำลาย
6. แต่ถ้าเจ้าสำแดงความฝันและคำแก้ฝันให้เรา เจ้าจะได้รับของขวัญ รางวัล และเกียรติยศใหญ่ยิ่ง ฉะนั้นจงสำแดงความฝันและคำแก้ฝันให้เรา”
7. เขาทั้งหลายกราบทูลคำรบสองว่า “ขอพระราชาเล่าพระสุบินแก่พวกข้าพระบาท และเหล่าข้าพระบาทจะถวายคำแก้พระสุบินพระเจ้าข้า”
8. พระราชาทรงตอบว่า “เรารู้เป็นแน่แล้วว่าเจ้าพยายามจะถ่วงเวลาไว้ เพราะเจ้าเห็นว่าคำของเรานั้นเด็ดขาด
9. ว่าถ้าเจ้าไม่ให้เรารู้ความฝัน ก็มีคำตัดสินเจ้าอยู่ข้อเดียว เจ้าทั้งหลายตกลงที่จะพูดเท็จและพูดทุจริตต่อเรา จนจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นเจ้าจงบอกความฝันให้แก่เราแล้วเราจึงจะรู้ว่า เจ้าจะถวายคำแก้ความฝันให้เราได้”
10. คนเคลเดียจึงกราบทูลพระราชาว่า “ไม่มีบุรุษคนใดในพิภพที่จะสำแดงเรื่องพระราชาได้ เพราะว่าไม่มีพระราชาที่ยิ่งใหญ่และทรงฤทธิ์ไต่ถาม สิ่งเหล่านี้จากโหร หรือหมอดู หรือคนเคลเดีย
11. สิ่งซึ่งพระราชาตรัสถามนั้นยากและไม่มีผู้ใดจะ สำแดงแด่พระราชาได้นอกจากพระ ผู้ซึ่งมิได้อยู่กับมนุษย์”
12. เพราะเรื่องนี้พระราชาจึงทรงกริ้วและเกรี้ยวกราดนัก และรับสั่งให้ฆ่าพวกนักปราชญ์ทั้งหมดของบาบิโลนเสีย
13. เพราะฉะนั้นจึงมีพระราชกฤษฎีกาประกาศไปว่า ให้ฆ่านักปราชญ์เสียทั้งหมด เขาจึงเที่ยวหาดาเนียลและพรรคพวกเพื่อจะฆ่าเสีย
14. แล้วดาเนียลก็ตอบอารีโอคหัวหน้าราชองครักษ์ ผู้ที่ออกไปเที่ยวฆ่านักปราชญ์ของบาบิโลน ด้วยถ้อยคำแยบคายและปรีชาสามารถ
15. ท่านถามอารีโอคหัวหน้าว่า “ไฉนพระราชกฤษฎีกาของพระราชาจึงเอาโทษหนักนักเล่า” แล้วอารีโอคก็เล่าเรื่องให้ดาเนียลทราบ
16. แล้วดาเนียลก็เข้าไปเฝ้าและกราบทูลพระราชา ขอให้กำหนดเวลาเพื่อท่านจะถวายคำแก้พระสุบินแด่ พระราชา
17. แล้วดาเนียลก็กลับไปเรือนของท่านและ แจ้งเรื่องให้ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์สหายของท่านฟัง